เปิดร้านเบเกอรี่ต้องเตรียมอะไรบ้างนอกจาก อุปกรณ์เบเกอรี่

นอกจาก อุปกรณ์เบเกอรี่ แล้วต้องเตรียมอะไรบ้างก่อนเปิดร้านเบเกอรี่

ร้านเบเกอรี่ คือร้านค้าที่ผลิตขนมอบ อาทิ ขนมปัง พาย เค้ก ขนมปังกรอบ คุกกี้ โดนัท และอีกหลายอย่าง และนำมาวางขายภายในร้าน เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อขนมอบสดใหม่จากเตา เพื่อให้ขนมเราน่าทานคุณควรเลือก อุปกรณ์เบเกอรี่ ที่เหมาะสมกับร้านเพื่อให้ร้านขนมปังบางร้านมีมุมกาแฟหรือชาในลักษณะคาเฟ่ให้บริการด้วย ดังนั้นถ้าตั้งใจจะเปิด ร้านเบเกอรี่ แล้ว ควรขายชาแกแฟหรือเครื่องดื่มอื่นๆเพิ่มเติมไปด้วยเพื่อความหลากหลายภายในร้านและยอดขายที่จะตามมา

ทำไมธุรกิจร้านเบเกอรี่จึงน่าลงทุน

หนึ่ง คือ ต้องยอมรับว่า ปัจจุบัน ร้านเบเกอรี่ นั้น เข้ากับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ เพราะคนรุ่นใหม่นิยม ไปนั่งตามร้านขนม เพื่อพักผ่อน นั่งคุย สนทนากับเพื่อน หรือนั่งอ่านหนังสือ เพื่อผ่อนคลาย การเปิดร้านขนมแบบเต็มรูปแบบ จึงตอบโจทย์ข้อนี้ได้ และทำรายได้ให้กับธุรกิจได้ อย่างเป็นกอบเป็นกำ อย่างแน่นอน

สอง สามารถทำคนเดียวได้ เพราะถ้าเราเริ่มต้น จากการรับขนมจากที่อื่นมาขาย นั้นก็ไม่จำเป็นต้องจ้างผู้ช่วย ซึ่งคนเดียวก็สามารถดูแลร้านได้เอง ทั้งหมด ไม่ต้องลงทุนในการจ้างลูกจ้าง และวุ่นวายกับคนจำนวนมาก

กลยุทธ์อะไรที่ใช้บริหารงานร้านเบเกอรี่

แนวทางการจัดจำหน่ายสินค้า ถือเป็นเรื่องของศิลปะที่ละเอียดอ่อน หลักการที่สำคัญคือ อย่างแรกต้องศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภค และศึกษา ลักษณะการเดินซื้อสินค้าของลูกค้า ทั้งยังต้องพิจารณาชนิดของสินค้า แล้วจึงค่อยเริ่มวางแผนงานเป็นขั้นเป็นตอน แยกแยะ และจัดประเภทสินค้า หรือเบเกอรี่ของคุณ ให้เป็นหมวดหมู่และตกแต่งโดยมีลูกเล่นในการใช้สีสรร นอกจากนี้ยังต้อง บรรจุ สินค้าที่จะขายอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งติดราคาให้ชัดเจน อาจประชาสัมพันธ์โดยใช้ป้ายบอก หรือมีสื่อโฆษณาอื่น ๆ และต้องไม่ลืม ตกแต่งร้านให้สะอาดและสวยงามอยู่เสมอ สำหรับในช่วงวันหยุดและเทศกาล เป็นโอกาสสำคัญที่เบเกอรี่ในร้านของคุณ จะเป็นที่ ปรารถนา ของลูกค้าเป็นอย่างยิ่ง

อีกสิ่งที่ไม่อาจมองข้ามนอกจากการมี อุปกรณ์เบเกอรี่ ที่ดีแล้ว คือ ทำเล การที่เราเลือกทำเลที่ดี และเหมาะสม แค่นี้ ก็มาชัยชนะไปกว่าครึ่งทางแล้ว เพราะมันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้า เราทำขนมออกมาอร่อยมาก แต่ร้านเปิดอยู่ในทำเลที่ไม่มีคนเดิน หรือคนมาพบเห็น แต่อย่าลืมว่า ค่าเช่าที่คุณต้องจ่ายนั้น ต้องคุ้มกับทำเลที่ได้ด้วย ถ้าทำเลดีแต่ค่าเช่าแพง จนคุณต้องขาดทุน ก็คงจะไม่ดีแน่

เครื่องทำพาสต้า หลากหลายสไตล์เส้นพาสต้า

หลากหลายรูปแบบเส้นพาสต้า ด้วยเครื่องทำพาสต้า

พาสต้าเป็นอาหารอิตาเลี่ยน ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย พาสต้าเป็นอาหารประเภทเส้นที่มีมากกว่า 600 ชนิด เฉพาะที่ผลิตขายมีมากถึง 350 ชนิดด้วยกัน สามารถนำมาประยุกต์ใช้ทำอาหารได้นานาชนิด และสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้านด้วย เครื่องทำพาสต้า มีรสชาติที่อร่อย ส่วนเส้นพาสต้าที่นิยมนำมาทำอาหารมีดังนี้

พาสต้ารูปทรงพิเศษ (Pasta shapes)
พาสต้ารูปทรงน่ารัก ๆ ขวัญใจเจ้าตัวน้อย มีรูปร่างแปลกตาออกไปทั้งพาสต้าแผ่นสี่เหลี่ยม รูปผีเสื้อหรือรูปโบว์อย่าง ฟาร์ฟาเล่ (Farfalla) เหมาะกับซอสมะเขือเทศ ครีม และซอสที่ทำจากเนยแข็ง ฟูจิลี (Fugilli) พาสต้าเส้นเกลียวสั้น มีความหนามากว่าพาสต้าทั่วไป ซึ่งเข้ากันได้อย่างลงตัวกันซอสเนื้อ และใช้กับเมนูพาสต้าอบชีสชนิดต่าง ๆพาสต้าริบบอน (Ribbon pasta)
พาสต้าสดเส้นแบนทำจากแป้งผสมกับไข่ มีทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่และเส้นใหญ่ เหมือนเส้นก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา อย่างเฟตตูชิเน่ (Fettuccine) และตาลิยาเตลเล่ (Togliatelle) ที่เพิ่มความอร่อยได้ด้วยซอสครีม

พาสต้าแบบแผ่น (Stuffed pasta)
แป้งพาสต้าน้องใหม่แบบแผ่นห่อ มีรูปร่างคล้ายเกี๊ยวสอดไส้ผัก เนื้อสัตว์หรือซีส ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็ได้แก่ ลาซานญ่า (Lasagne) และราวิโอลินี (Raviolinl)

พาสต้าแบบเส้น (Long pasta)
ที่เราพบเห็นกันบ่อย ๆ ก็คือ สปาเกตตี (Spaghetti) คาปาลีดันเจลโลหรือสปาเกตตี เส้นผมนางฟ้า (Capalli d’angelo) ลิงกุยเน่ (Linguine) ฟูซิลลี (Fusilli) และบูคาตินี (Bueatini) ล้วนแล้วแต่เป็นพาสต้าแห้งที่มีลักษณะเส้นกลม แบนและยาว ซึ่งเข้ากันได้ดีกับซอสมะเขือเทศ ซอสเพสโตและซอสที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ จะนำมากินกับแกงเขียวหวาน ต้มยำและอาหารไทยนานาชนิดก็อร่อยเข้ากันค่ะ

พาสต้าแบบท่อ (Tubes)
พาสต้ารูปร่างหลากหลายทั้งลักษณะตรงยาวคล้ายหลอดดูดน้ำแบบบริกาโตนี (Rigatoni) รูปทรงตัดเฉียงปลายทั้งสองข้างอย่างเพนนี (Penne) และทรงบิดเกลียวที่เรียกว่าฟูชิลลี (Fusilli) ส่วนมักกะโรนีหลอดกลม ๆ ที่เรารู้จักกันดีก็อยู่ในประเภทนี้ด้วย ซึ่งพาสต้าเหล่านี้มีเครื่องปรุงที่เข้ากันได้เยอะ แต่ซอสที่กินแล้วเข้ากันแบบสุดๆ ต้องยกให้กับซอสมะเขือเทศ ซอสผักและซอสเนื้อค่ะ

นอกจากนั้น ยังมีพาสต้าเพื่อสุขภาพที่ผสมธัญพืชซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายสามารถทำได้ด้วยตัวเองหากคุณมี เครื่องทำพาสต้า อย่างเช่น พาสต้าผสมโฮลวีต พาสต้ามะเขือเทศ พาสต้าหมึกดำ และพาสต้าปวยเล้ง ที่ได้จากการผสมสีของผักลงไปช่วยให้น่ากินยิ่งขึ้น

ก่อนเปิดร้านเบเกอรี่ควรมีอะไรก่อนจะเริ่มซื้อ เครื่องจักรเบเกอรี่

ก่อนที่จะเปิดร้านเบเกอรี่ด้วย เครื่องจักรเบเกอรี่ เราควรรู้อะไรบ้าง

การมีร้านเบเกอรีเป็นของตัวเอง เป็นความฝันของใครหลายๆ คน เพราะไม่ใช่แค่ การได้มีร้านสวย หรูๆ แล้ว ผลตอบแทนยังสวยหรูตามมาด้วย และถ้าพูดถึงความนิยมในการรับประทานเบเกอรี่ ก็คงไม่ต้องบอก เพราะกลายเป็นเมนูขนมหวานต้นๆ ซึ่งเป็นที่โปรดปรานของใครหลายๆ คน ก่อนตัดสินใจ เปิดร้านเบเกอรี่ ควรจะได้รู้ถึง รูปแบบ และมี เครื่องจักรเบเกอรี่ ที่ดี ว่า ปัจจุบัน เขามีวิธีการทำร้านเบเกอรี่กันอย่างไรให้สามารถแข่งขัน และอยู่รอดได้ เราได้มีรูปแบบของร้านเบเกอรี่มานำเสนอ

แบบที่ 1 ทำเบเกอรี่ขายเอง

สำหรับรูปแบบนี้ คงจะต้องเริ่มจากใจรัก ก่อน เพราะถ้ารัก และฝันอยากจะทำก็จะตั้งใจ และทำออกมาได้ดี ซึ่งการทำขายเอง ปัจจุบัน ก็ไม่ยาก เพราะมีสถานบันสอน ทำมากมาย หลายแห่ง หรือ ฝึกเรียน จากทางโซเซียลเน็ตเวิร์คก็ได้ เช่นกัน เพียงแค่ คุณมีเงินทุนมากขึ้นมาหน่อย และเคยไปเรียนทำ Bakery มา หรือมั่นใจในฝีมือ ธุรกิจร้านเบเกอรี่ชนิดนี้ จะทำเงินได้มากกว่า เพราะว่าเราไม่ต้องไปรับขนม มาจากที่อื่น ซึ่งมีต้นทุนที่ซื้อมา แพงกว่าขนมที่เราทำเองอย่างแน่นอน แต่ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่า เงินลงทุนที่ลงเพิ่มไป จะคุ้มกับรายได้ที่ได้เพิ่มขึ้นมาหรือเปล่า

แบบที่ 2 รับมาขายต่ออีกที

สำหรับ รูปแบบดังกล่าวนี้ ปัจจุบัน ได้รับความนิยมอย่างมาก ในกลุ่มของคนรุ่นใหม่ ที่กล้าแสดงฝีมือ ในช่วงเริ่มต้น เกรงว่าจะเจ๋งไม่เป็นท่าตั้งแต่เริ่มต้น จึงต้องอาศัยจมูกคนอื่น หายใจไปก่อน ซึ่งแบบนี้ ความเสี่ยงต่ำ เพราะยังไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์ เครื่องมืออะไรมาก ส่วนร้านเบเกอรี่ ที่เปิดขายในลักษณะขายส่งนี้ มีอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ต จะมีอยู่หลายราย ส่วนร้านดังๆ ที่คนรู้จัก เช่น Bakery ยี่ห้อ HOME ของมหาวิทยาลัยราชภัฎ สวนดุสิต เป็นตัวอย่างสุด Classic ของร้านเบเกอรี่รูปแบบนี้ เราจะเห็นคนนำขนมยี่ห้อ HOME มาเดินขายตามที่ต่างๆ หรือตั้งโต๊ะขายก็ตาม รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่เริ่มต้นง่าย เพียงไปรับขนม และนำมาตั้งขาย ไม่ต้องจมทุนไปกับการซื้อเครื่องอบขนม ไม่ต้องเปลืองแรงทำ และขนมที่ขายอร่อยแน่นอน

แบบที่ 3 เฟรนไชส์ร้านเบเกอรี่       

หากคุณมีร้านขนมแบบที่ 2 หรือ 3 แล้วพบว่ามีคนเข้าร้านของคุณอย่างล้นหลาม และคุณมีระบบการบริหารจัดการร้านที่ดีด้วย จนคิดว่าอยากจะขยายสาขา แต่ติดตรงที่ไม่มีเงินลงทุนเพิ่มเติม ทางเลือกที่ยอดเยี่ยมของคุณ น่าจะเป็นการขายแฟรนไชส์ร้านของคุณ เท่านี้คุณก็ขยายสาขาได้ โดยใช้เงินลงทุนของคนอื่นแล้ว

แบบที่ 4 พร้อมที่นั่ง
       ถ้าไม่อยากขายแค่ Bakery อย่างเดียว และคิดว่าขนมที่ทำขึ้นมา มีดีกว่าแค่จะเป็นร้านทั่วไป ก็เปิดร้านเบเกอรี่พร้อมที่นั่ง แบบเต็มรูปแบบได้เลย เพราะราคาขนมจะขายได้แพงกว่า 2 แบบแรก โดยมีจุดมุ่งหมาย ให้เป็นจุดนัดพบ สำหรับคนที่มากินขนม นั่งคุยกัน หรือนั่งอ่านหนังสือ ซึ่งเข้ากับ Lifestyle ของคนรุ่นใหม่ด้วยและประการสุดท้าย น่าจะ ความนิยมเบเกอรี่ ของคนรุ่นใหม่ ที่มีเวลาน้อย เลือกรับประทานเบเกอรี่เป็น อาหารจานด่วน หรือรองท้อง หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” เมื่อคุณเดินทางไกล หรืออยู่ในชั่วโมงเร่งด่วน ไม่สามารถหาที่นั่งรับประทานอาหารได้ การกินขนมที่ซื้อข้างทาง จะช่วยให้คุณคลายหิวไปได้ ก่อนที่คุณจะทำธุระเสร็จ และไปกินอาหารมื้อใหญ่ต่อไป และที่สำคัญของการเปิดร้านเบเกอรี่คือ เครื่องจักรเบเกอรี่ ที่ดีมีคุณภาพด้วยเช่นกันครับ

วิธีทำขนมปังด้วย เครื่องรีดแป้ง

 วิธีทำขนมปังฮอกไกโดด้วย เครื่องรีดแป้ง

 ใครชอบกินเมนูขนมปังพลาดไม่ได้เลยกับ ขนมปังฮอกไกโด ขนมปังเนื้อนุ่ม ๆ ฟู ๆ เป็นเอกลักษณ์ แค่ฉีกกินเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว สำหรับใครที่ชอบทำขนมและมี เครื่องรีดแป้ง กำลังสูงลองทำกินเองเลยค่ะ รับรองว่า วิธีทำขนมปังฮอกไกโดสูตรนี้จาก

ส่วนผสมที่ต้องใช้

น้ำเปล่า 200 กรัม

แป้งขนมปัง 50 กรัม

เตรียมส่วนผสม

น้ำตาลทราย 86 กรัม

นมอุ่น 100 มิลลิลิตร
ยีสต์ 11 กรัม
เกลือป่น 8 กรัม
พิมพ์สี่เหลี่ยมทาเนย
ไข่ไก่ผสมน้ำเปล่า (ทาหน้าขนมปัง)

เตรียมแป้ง

1. ใส่แป้งขนมปังกับน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลือง คนให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน

2. คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งข้นคล้ายแป้งเปียก

3. เสร็จแล้วเอาใส่ชาม ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้

วิธีทำ

1. ใส่แป้งขนมปังกับน้ำเปล่า ลงในกระทะทองเหลือง คนให้เข้ากันแล้วนำขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน

2. คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งข้นคล้ายแป้งเปียก

3. เสร็จแล้วเอาใส่ชาม ปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร พักไว้

ใครชอบกินขนมปังนุ่ม ๆแล้วมี เครื่องรีดแป้ง อยู่ที่บ้าน ฉีกกินเป็นปอนด์ ๆ ก็ไม่พอ เครื่องรีดแป้ง อยู่ที่บ้านก็ลองมาทำขนมปังฮอกไกโดสูตรนุ่ม ๆ แบบนี้กินกันดูนะคะ ทำออกมาเป็นอย่างไรอย่าลืมนำมาอวดกันบ้างนะคะ 

มือใหม่ทำเบเกอรี่ด้วย เตา smeg

ทำความรู้จักกับแป้งสาลีและ เตา smeg สำหรับมือใหม่

ก่อนที่จะทำความรู้จักกับ เตา smeg เรามาทำความรู้จักกับแป้งสาลีกันก่อน แป้งสาลีนับเป็นส่วนผสมหลักในการทำขนมอบส่วนใหญ่ เพราะแป้งสาลีนี้จัดเป็นตัวที่ให้โครงสร้างของขนมทุกชนิด เนื่องจากการจับตัวกันของโปรตีนที่ชื่อ “กลูเต็น” ลักษณะและขนาดบรรจุของแป้งแต่ละชนิด จะต่างกันเพื่อความสะดวกในการใช้ของลูกค้า อย่างไรก็ตามแม้ลักษณะของขนาดบรรจุจะเปลี่ยนไป คุณภาพเนื้อในของแป้งยังคงเดิม เสียเวลาสักนิด เพื่อทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เราจะบอกคุณต่อไปนี้ แล้วคุณจะเข้าใจคำว่าคุณภาพดีขึ้น

แป้งสาลีตราพัดโบก เรียกกันทั่วไปว่าตราพัด เป็นแป้งเค้กชนิดพิเศษ เหมาะสำหรับทำเค้กที่ต้องใช้น้ำตาลในปริมาณสูง มีโปรตีนต่ำ และความเหนียวน้อย ถ้าคุณจะทำบัตเตอร์เค้ก ชิฟฟ่อนเค้ก และสปองจ์เค้ก อย่าลืมแป้งพัด เพราะนั่นคือแป้งคุณภาพสำหรับเค้กที่มีคุณภาพ

แป้งสาลีตราว่าว แป้งชนิดนี้อาจเรียกว่าเป็นแป้งอเนกประสงค์ เพราะสามารถนำไปทำขนมสารพัดชนิด นับตั้งแต่ บิสกิส คุกกี้ แครกเกอร์ พายและทาร์ต เพสตรี้ โดนัทเค้ก เค้กผลไม้ วอฟเฟิ้ล แพนค้ก ขนมไข่ ขนมเปี๊ย ปาท่องโก๋ บะหมี่ไข่ และผลิตภัณฑ์อื่นอีกมาก อาจเรียกได้ว่า ซื้อว่าวชนิดเดียวคุณสามารถทำขนมได้เกือบทุกชนิด

แป้งสาลีตราหงส์ขาวหือตราห่าน, ตราสิงโตทะเลแดง และตราสิงโตทะเลน้ำเงิน แป้งทั้ง 3 ตรานี้ เป็นแป้งสำหรับทำขนมปังโม่จากข้าวสาลีคุณภาพดีที่สุดจาสหรัฐอเมริกา มีโปรตีนสูง และมีความเหนียวมาก จึงดูดซึมน้ำได้ดี ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณสามารถทำขนมปังทุกชนิดได้จากแป้งทั้ง 3 ชนิดนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนมปังแซนวิช ขนมปังฝรั่งเศส ขนมปังหวาน เดนนิสเพสตรี้ พัฟเพสตรี้ โดนัทยีสต์ บะหมี่ไข่ และหมี่กึ่ง

แป้งสาลีตราเสือบิน จัดได้ว่าเป็นแป้งสาลีชนิดพิเศษ เพราะประกอบไปด้วยความพิเศษ 3 อย่าง คือ โปรตีนสูงเป็นพิเศษ มีความเหนียวเป็นพิเศษ และดูดซึมน้ำได้ดีเป็นพิเศษซึ่งเราชอบกัน นั่นคือ ปาท่องโก๋

แป้งสาลีตราดอกบัวแดง คุณมักเรียกง่าย ๆ ว่าตราบัวแดง จัดเป็นแป้งชนิดพิเศษ โม่จากข้าวสาลีที่มีคุณภาพสูงด้วยกรรมวิธีพิเศษ มีโปรตีนต่ำ และความเหนียวน้อย เพื่อให้เหมาะกับการทำซาลาเปา สปองจ์เค้กและแยมโล บิสกิต คุกกี้ ปุยฝ้าย ขนมไข่ เค้กเนย

ร้านเบเกอรี่และโรงงานอุตสาหกรรมคงรู้จักแป้งตราต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ทุกตราแล้ว  แต่คุณแม่บ้านซึ่งซื้อแป้งกล่องขนาด 1 กิโลกรัม คงรู้จักแต่ตราห่าน, ตราว่าว, ตราบัวแดง และตราพัด  เพราะเราเลือกเฉพาะ  4  ตราสำคัญดังกล่าวเท่านั้น  หากแต่  4  ตรานี้คิดว่าคุณแม่บ้านสามารถใช้ทำขนมได้ทุกชนิดแล้วและสิ่งที่ไม่ควรลืม คือ เตา smeg ที่ไว้ใช้สำหรับอบแป้งของคุณให้ฟู